ความรู้บทความพื้นฐาน (ตอนสำคัญที่สุดของเรื่องคีโต!!)
กินไขมันยังไงให้ไม่อ้วน!?
กินไขมันเท่าไหร่ น้ำหนักเราก็ยิ่งลด!!
คีโต ย่อมาจาก “คีโตเจนิก ไดเอต” (Ketogenic diet) คือ การลดอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล และให้น้ำหนักกับการทาน “ไขมัน” ชนิดดีเพิ่มขึ้นเป็นหลัก และโปรตีนปริมาณปานกลาง เพื่อให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงการเผาผลาญ
หลักการลดน้ำหนักด้วยการกินคีโต
อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตอย่างข้าว/แป้ง จะถูกย่อยให้กลายเป็นน้ำตาล เพื่อเป็นพลังงานหลักของร่างกาย แต่เมื่อเราลดการทานคาร์โบไฮเดรตลง ร่างกายจะหันไปเผาผลาญไขมันที่สะสมไว้แทน เป็นกระบวนการที่เรียกว่า คีโตซิส (Ketosis) เกิดเป็น สารคีโตนบอดี้ส์ (Ketone Bodies) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ คีโต นั่นเอง
กระบวนการคีโตซิส (Ketosis) เป็นการเผาพลาญไขมันเพื่อให้พลังงานร่างกายที่น้ำตาลกลูโคสไม่พอ ซึ่งกลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ ทำให้กลูโคสในเลือดลดลง ไตรกลีเซอไรด์สลายเป็นไขมันอิสระ ตับสร้างคีโตน (Ketone) จากไขมันอิสระเป็นพลังงาน ไขมันเราจึงลดลงจากการใช้พลังงาน
สัญญาณที่บอกว่าเข้าคีโตซิสแล้ว!!
มีค่าคีโตนในเลือด มีคีโตฟลู น้ำหนักลด นอนไม่หลับ ขับถ่ายเปลี่ยนไป ประสิทธิภาพลดลง เหนื่อยล้า(ช่วงแรก) หลังจากนั้นพลังงานจะกลับมาเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น รู้สึกอิ่มนาน ไม่อยากอาหาร การทำงานสมองดีขึ้น นอนหลับดีขึ้น
อาการไข้คีโต หรือ คีโตฟลู (Keto Flu)
คือ กลุ่มอาการที่ร่างกายปรับตัว ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อาการจะค่อยๆดีขึ้นและหายไป
ได้แก่ ปวดหัว เวียนศีรษะ ผื่นคัน ท้องผูก ตะคริว
วิธีแก้ ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ ผสมเกลือหิมาลายันหรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar) ทานผักใบเขียวให้มาก เสริมด้วยโพแทสเซียมและแมกนีเซียม
และจะดีที่สุดสำเร็จสำหรับการทานแบบคีโต ร่างกายจะต้องเกิด Keto-Adapted (Fat Adapted) คือ ภาวะที่ร่างกายใช้พลังงานจากไขมันอย่างสมบูรณ์ ภายใน 4-8 สัปดาห์ โดยสัญญาณที่บอกคือ มีพลัง อิ่มนาน อารมณ์ดี สมองแจ่มใส เราจะไม่อยากน้ำตาล ไม่รู้สึกหิว ไม่มีคีโตฟลูแล้ว [ที่มาของชื่อร้านค่ะ Keto Flu🐰]
เน้นย้ำ!! สำหรับการทานคีโตแบบที่ถูกต้อง จะเกิดอาการเหล่านี้ นะคะ
การทานคีโตเป็นแนวทางการลดน้ำหนักที่ให้ผลเร็ว เมื่อลดน้ำหนักได้เป็นที่พอใจแล้ว เราควรหันมาทานอาหารที่หลากหลายและสมดุล ใส่ใจดูแลเพื่อผลสุขภาพในระยะยาว
Good Health😊 Good Heart❤️